อดีตป่าไม้อำเภอเมืองกาญจนบุรี "ปลูกไผ่บงใหญ่"แบบครบวงจร
ที่มาจาก www.khaosod.co.th
"เส้นทางเถ้าแก่"วันนี้จะพามาที่เมืองกาญจน์ เป็นเมืองของไผ่อย่างแท้จริง มีคนเคยสำรวจพบว่าในธรรมชาติมีไผ่มากกว่า 40 สายพันธุ์ ส่วนปริมาณก็เช่นกัน ภูเขาบางลูกมีต้นไผ่ล้วนๆ กระนั้นก็ตาม การใช้ประโยชน์จากไผ่ ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ เพราะไผ่เป็นทรัพยากรที่ต้องมีการดูแลเช่นกัน
เพราะความต้องการใช้ไผ่มีมาก จึงต้องปลูก ผู้ที่ปลูกไผ่แล้วเจริญงอกงามดีคนหนึ่ง คือนายพุฒิ พรไตรศักดิ์ คนเมืองกาญจนบุรี ผ่านรั้วโรงเรียนป่าไม้แพร่รุ่นที่ 10 ปัจจุบันโรงเรียนแห่งนี้หยุดการเรียนการสอนไปแล้ว ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะป่าไม้น้อยลงจึงต้องหยุดหรือไม่
รับราชการในจังหวัดล้อมๆบ้านเกิด
นายพุฒิ เผยว่ารับราชการวนเวียนอยู่แถบจังหวัดสมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี และกาญจนบุรี สุดท้ายดำรงตำแหน่งป่าไม้อำเภอ ที่จังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันเกษียณแล้ว
"ช่วงที่รับราชการอยู่ผมสนใจเรื่องไผ่ จึงเข้าอบรมการปลูกและใช้ประโยชน์จากไม้ไผ่ กับคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในฐานะนักการป่าไม้ เขาศึกษาไผ่อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้รวบรวมชาวบ้านที่อำเภอสังขละบุรี เพื่อปลูกไผ่ โดยมีโครงการทำครบวงจร"
กว่าจะลงตัว
ไปขอพันธุ์ไผ่ จากหน่วยงานราชการมาปลูก ช่วงนั้นต้นพันธุ์ได้จากการเพาะเมล็ดไผ่ที่ตายขุย รวมแล้วพื้นที่ปลูก 600 ไร่ด้วยกัน เมื่อปลูกไปได้ 1 ปี ปรากฏว่าไผ่ไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควร เข้าสู่ปีที่ 2 จึงรู้ว่าได้พันธุ์ไม่ดีมา ต้องไถทิ้งปลูกใหม่
ปลูกไผ่แล้วญาติเดือดร้อน
เคยไปเก็บต้นกล้าไผ่บงใหญ่ ที่เกิดจากเมล็ดมาชำลงถุง จากนั้นปลูกทดแทน เวลาผ่านไป 3-4 ปี ชาวบ้านเห็นว่าไม่ได้ผลขอถอนตัว ทำให้ต้องไปกู้ยืมเงินญาติพี่น้องเพื่อซื้อที่ชาวบ้านรวมแล้วเป็นเงินเกือบล้านบาท ประมาณว่าปลูกไผ่แล้วญาติเดือดร้อน
กู้เงินธนาคาร ต่อมาไผ่บงใหญ่เริ่มให้ผลผลิต แต่สถานการณ์ไม่ดีนักต้องไปกู้ธนาคารอีกเกือบล้านบาท เพื่อมาเป็นค่าใช้จ่าย ปัจจุบันเริ่มดีขึ้นญาติๆ พอใจที่ได้ที่ดิน รวมทั้งผลิตผลเริ่มออก
"ทุกวันนี้มีไผ่บงใหญ่อยู่ 15,000 กอ ไผ่หม่าจู 3,500 กอ การดูแลรักษาเป็นไปแบบธรรมชาติทั้งหมด ไม่ต้องให้น้ำ ไม่ใส่ปุ๋ย ป้องกันเพียงไม่ให้ไฟไหม้"
แปรรูปไผ่บงใหญ่
ไผ่บงใหญ่ มีน้ำหนักของหน่อเฉลี่ย 2-5 กิโลกรัมลำเส้นผ่านศูนย์กลางโดยเฉลี่ย 5 นิ้ว ยาว 30 เมตร เหมาะที่จะใช้งานได้หลายอย่างหน่อไผ่บงใหญ่อัดปี๊บจำหน่าย ปีหนึ่ง 4,000 ปี๊บ น้ำหนักปี๊บละ 12 กิโลกรัม ราคา 250 บาทนำออกขายที่ตลาดศรีเมือง หากมีมากถึง 10,000 ปี๊บก็ยังไม่พอจำหน่าย ส่วนหนึ่งนำมาดองได้ครั้งละ 25 ตัน ปีหนึ่งหน่อไม้ดอง ออกสู่ตลาด 70 ตัน ส่งขายกิโลกรัมละ 12 บาท
"ลำไผ่เอาเผาถ่านกิโลกรัมละ 400-500 บาทได้แล้ว ตอนนี้ต่อยอดจะทำตะเกียบส่งต่างประเทศ เมื่อมีผลผลิตหลายสิ่งหลายอย่างเริ่มเข้ารูปเข้ารอย อีกไม่นานจะปลูกไผ่คงครบวงจรจริงๆ